เปรียบเทียบ Ford Everest กับ Toyota Fortuner
ถ้าพูดถึงรถกลุ่ม PPV ก็ต้อง 2 รุ่นนี้เท่านั้น คือ Fortuner vs Everest โดย Ford Everest ที่ขนของเล่นมาเพียบพร้อม ใส่ของแบบจุก ๆ ส่วน Toyota Fortuner ผู้นำหัวหาดแบบหาคนล้มได้ยากมาก รถขาดตลาดกันเรียกว่าอยากขายแต่ผลิตไม่ทัน
ราคา Ford everest vs Fortuner
-
Toyota Fortuner GR Sport ราคา 1,899,000 บาท
-
Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 10AT ราคา 1,854,000 บาท
fortuner vs everest
อ่านเพิ่มเติม:
- ราคา Toyota Fortuner : ราคาและตารางผ่อน Toyota Fortuner
- ราคา Ford Everest : ราคาและตารางผ่อน Ford Everest
ภายนอก Ford everest vs Fortuner
Toyota Fortuner GR Sport มีความยาว 4,795 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,855 มิลลิเมตร ความสูง 1,835 มิลลิเมตร และความยาวฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร
Ford Everest Titanium+ 2.0 Bi-Turbo 4X4 10AT ความยาว 4,914 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,923 มิลลิเมตร ความสูง 1,842 มิลลิเมตร และความยาวฐานล้อ 2,900 มิลลิเมตร
จากภาพรวมภายนอก Fortuner vs Everest ต้องบอกว่า อุปกรณ์โดยรวมส่วนใหญ่ไม่ได้แตกต่างกันมาก ล้อขนาดใหญ่ 20 นิ้ว เหมือนกัน แต่ในเรื่องของมิติตัวถังชัดเจนว่า Ford Everest ใหญ่กว่าToyota Fortuner ในทุกมิติ
ภายใน Toyota Fortuner GR Sport
ภายใน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ กับ ฟอร์จูนเนอร์
ภายใน Toyota Fortuner GR Sport เน้นความสปอร์ต ด้วยวัสดุตกแต่งสี Smoke Silver พร้อมกับบุหนังสีดำ, เดินตะเข็บด้ายสีแดง, พวงมาลัยตกแต่ง Center Mark สีแดง พร้อมสัญลักษณ์ GR, หน้าจอแสดงข้อมูล MID แบบสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว, เบาะนั่ง สัญลักษณ์ GR, ช่องแอร์ตกแต่งสี Smoke Silver และ โครเมียม, ฟังก์ชั่นแสดงองศาการเลี้ยวล้อหน้า Tire Turning Angle
ส่วน Ford Everest Titanium+ 2.0 Bi-Turbo 4X4 10AT ห้องโดยสารได้รับการออกแบบมาให้หรูหรา ไฮไลท์ คือ จอสีขนาด 12.4 นิ้ว, จอกลางแบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว, ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC®4A, เบาะนั่งแถวที่ 3 พับไฟฟ้าได้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ, ช่องต่อไฟ 230V ที่คอนโซลกลาง
สำหรับห้องโดยสาร ฟอร์ด เอเวอเรสต์ กับ ฟอร์จูนเนอร์ ก็คงต้องยกให้กับ Ford Everest ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบ เช่น หน้าจอทั้งผู้ขับขี่และตรงกลางขนาดใหญ่สุด พร้อมกับจอที่ชัดมากระดับ HD, เบาะนั่งแถวที่ 3 พับไฟฟ้าได้อีก
Ford Everest Titanium+ 2.0 Bi-Turbo 4X4 10AT ห้องโดยสาร
เครื่องยนต์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ กับ ฟอร์จูนเนอร์
Toyota Fortuner GR Sport มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล รหัส 1GD-FTV ขนาด 2.8 ลิตร 2,755 ซีซี. VN-Turbo กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก 92.0 x 103.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.6 : 1 ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD
Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 10AT มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี พ่วงระบบอัดอากาศ Bi-Turbocharged พร้อมกับ Intercooler ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า (PS) ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,000 รอบต่อนาที ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมคันเกียร์แบบ Electronic Shifter ขับเคลื่อน 4 ล้อ Mangement System และระบบเลือกโหมดการขับขี่ 4×4 Terrain Management System
เครื่องยนต์ดีเซล Toyota Fortuner GR Sport
ในเรื่องเครื่องยนต์ Ford everest vs Fortuner ตัวเลขแสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก สำหรับ Toyota Fortuner มีการปรับจูนมาให้การขับขี่สนุกสนาน ทันใจ ตอบสนองได้อย่างดี ช่วงล่างปรับใหม่สำหรับ GR ออกแนวแข็ง ส่วน Ford Everest ปัญหา อยู่ที่การติดตั้งเครื่องยนต์ เครื่องเก่าแต่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขใหม่ทั้งหมด ขับขี่ได้เนียนขึ้น
ระบบความปลอดภัย Fortuner vs Everest
Toyota Fortuner GR Sport
-
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC
-
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
-
ระบบควบคุมส่วนพ่วงท้าย TSC
-
ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC
-
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
-
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
-
ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
-
สัญญาณกะระยะช่วยจอดด้านหลัง 6 ตำแหน่ง
-
ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
-
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
-
ระบบเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Monitor
-
ระบบเตือนการชนด้านหน้า Pre-Collision System
-
ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอหลัง Rear Cross Traffic Alert
-
ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน Lane Departure Alert
-
ระบบ Toyota Safety SENSE
-
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control
เครื่องยนต์ดีเซล Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 10AT
Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 10AT
-
ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน Emergency Assistance
-
ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM
-
สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและด้านหลัง
-
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
-
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA
-
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
-
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control
-
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
-
ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
-
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
-
ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop & Go
-
ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด BSIS with CTA & Braking
-
ระบบเปิด – ปิดไฟสูงอัจฉริยะ AHH
-
ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ Evasive Steer Assist
-
ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน AEB with Pedestrian Detection
-
ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง Reverse Brake Assist
-
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Keeping System
-
ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW with Brake Support
-
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning
-
ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน Post-Impact Braking
สรุป
Ford Everest จะได้เปรียบด้วยความสดใหม่ ส่วน Toyota Fortuner จะเอาใจสายซิ่งในเรื่องรูปร่างหน้าตา แต่ภายในก็ต้องยกให้ Ford Everest เพราะมาพร้อมอุปกรณ์มากมาย ทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ แถมยังเป็นแบบ HD เบาะนั่งแถว 3 ปรับไฟฟ้า สำหรับการขับขี่ ถ้า Ford Everest ปัญหาไม่มีเหมือนรุ่นก่อนก็ต้องบอกว่าสามารถเทียบกับ SUV หรูเลยก็ว่าได้ ส่วน Toyota Fortuner จะเน้นความดุดัน ขับสนุก
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาและตารางการผ่อนชำระของรุ่นรถได้ที่นี่ https://rakarodthai.com/
